ทำไมถึงผิวแห้ง ริมฝีปากแตกในเวลาอากาศหนาวนะ?

แม้ว่าคุณจะเป็นกลุ่มคนที่ดูแลสุขภาพผิวดีมากขนาดไหน ก็ต้องแอบเป็นกังวลเล็กๆ กับฤดูหนาวที่อาจทำร้ายผิวหนังของคุณ ให้ผิวของคุณแห้งกร้านได้ง่าย วิธีดูแลและป้องกันนั้นมีมากมาย หากจะให้ดีเรามารู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงของผิวแห้งกร้านเพื่อปกป้องผิวสวย และบำรุงกันอย่างถูกจุดดีกว่า

ทำความรู้จักผิวกันเถอะ

ผิวของคนเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่ผิวชั้นบน Horny layer จะมีน้ำเป็นส่วนประกอบประมาณ 10 - 20% และถัดจากชั้นบนลงไปจนถึงผิวชั้นใน Inner skin จะประกอบไปด้วยน้ำ 60-70% เลยทีเดียว ส่วนที่เป็นน้ำมันใต้ชั้นเซลล์ผิวเช่น Ceramide และมอยเจอร์ไรเซอร์ธรรมชาติจากผิว เช่น NMF (Natural moisturizing factor) และ Sebum  สารที่หลั่งจากต่อมใต้ผิวหนังเหล่านี้จึงถูกเรียกว่า ครีมจากธรรมชาติ ซึ่งมีหน้าที่ปกป้องผิวให้มีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ ดังนั้น Ceramide และ NMF จึงเป็นส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้เลย หากปริมาณน้ำใต้ผิวมีน้อยกว่า 10% ผิวหน้าจะเกิดความแห้งกร้านและไม่เรียบเนียน ส่งผลให้เกิดปัญหากวนใจสาวๆ ได้ค่ะ

แล้วอะไรที่ทำให้น้ำใต้ผิวมีน้อยกว่า 10% ?

หนึ่งในเหตุผลที่มักจะถูกกล่าวขึ้นมาก็คือสารเคลือบผิวไม่เพียงพอ สารเคลือบผิว (Sebum membrane) ซึ่งทำหน้าที่กักเก็บน้ำเอาไว้ในผิว และป้องกันการระเหยของน้ำที่อยู่ในผิวชั้นบน สารเคลือบผิวที่ว่านี้ เกิดจากการที่ร่างกายของเราหลั่งออกมาทางผิวหนัง เป็นครีมธรรมชาติที่มีส่วนประกอบของมอยเจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะกับผิวของเรามากที่สุด แต่ในช่วงฤดูหนาวเมื่ออุณหภูมิและความชื้นลดต่ำลง ร่างกายก็จะหลั่งสารเหล่านี้ลดลงตามไปด้วย ส่งผลให้น้ำในชั้นผิวระเหยออกไปจนปริมานน้ำใต้ผิวมีน้อยกว่า 10% จนทำให้ผิวเกิดความแห้งกร้านตามไปด้วย

ถึงแม้ประเทศไทยหน้าหนาวอาจจะไม่หนาวซักเท่าไหร่นัก แต่สิ่งที่หลายๆคนมองข้ามไม่ได้ คือ อากาศที่แห้งขึ้น และความแห้งนี่แหละคือปัจจัยหลักๆที่ทำให้ผิวแห้ง เกิดรอยแตก ลอกเป็นขุย และอาจมีอาการคันในบางราย

ริมฝีปากแห้งในหน้าหนาว ทำยังไงดี?

เป็นที่ทราบกันว่า ในช่วงหน้าหนาวน้ำในร่างกายของเราจะถูกระเหยออกไปมากเป็นพิเศษ และด้วยสาเหตุนี้เอง ที่ส่งผลให้เราผิวแห้งกว่าปกติ โดยเฉพาะริมฝีปากที่มักแห้งแตกก่อนบริเวณอื่นเสมอ

แล้วทำไมริมฝีปากถึงแห้งแตกง่ายกว่าที่อื่นๆ แม้ไม่ใช่เวลาหน้าหนาว?

รู้หรือไม่? ไม่ว่าจะสภาพอากาศแบบไหน ริมฝีปากของคุณก็มีโอกาสแห้ง แตกเป็นขุยได้เพราะบริเวณริมฝีปากไม่มีต่อมไขมันไว้เคลือบป้องกันไม่ให้น้ำระเหยออกไปเหมือนผิวบริเวณอื่นๆ จึงทำให้แห้งและแตกเป็นขุยง่ายนั่นเอง โดยเฉพาะอากาศแห้งหรือร้อนเกินไปทำให้ริมฝีปากขาดความชุ่มชื้น รวมไปถึงพฤติกรรมการดื่มน้ำ และทานอาหาร อาการปากแห้ง หากปล่อยไว้นาน ๆ จะทำให้เกิดอาการปากแตก เป็นร่อง เรามาดูวิธีแก้ไข เพื่อไม่ให้ผิวกายและริมฝีปากสวยๆ ต้องแห้งเสียกันดีกว่า

วิธีแก้ปากแห้งหน้าหนาว

ดื่มน้ำให้มากๆ

เพราะน้ำจะไปช่วยเติมความชุ่มชื้นใต้ผิวหนัง ให้ผิวของเราไม่แห้งแตกง่าย เราจึงควรดื่มน้ำให้มากๆ อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว

หลีกเลี่ยงการเม้มหรือเลียริมฝีปาก

บางคนมีความเชื่อว่า การเลียริมฝีปากจะช่วยทำให้ริมฝีปากมีความชุ่มชื้นขึ้น แต่ในความเป็นจริงเมื่อเราเม้มหรือเลียริมฝีปาก เอนไซม์ที่ทำหน้าที่ช่วยย่อยอาหารในน้ำลายจะทำให้ริมฝีปากแห้งมากขึ้น และหากยังคงทำต่อไปอาจทำให้ริมฝีปากแตกและอักเสบแทนอีกด้วย

ทาริมฝีปากด้วยน้ำผึ้ง

ในน้ำผึ้งจะมีแอนติออกซิแดนท์ที่อุดมไปด้วยสารฆ่าเชื้อและป้องกันการอักเสบหรือติดเชื้อหาก ริมฝีปากแตกเป็นขุย ทั้งยังช่วยสมานแผลให้หายเร็ว ชะลอความเสื่อมของเซลล์ จึงทำให้ริมฝีปากนุ่มนวลและ ชุ่มชื้นนั่นเอง

สครับริมฝีปาก

หากปากแห้งมากจนลอกเป็นขุย ลองใช้น้ำอุ่นผสมเกลือป่นเล็กน้อย เช็ดไล้เบาๆ บริเวณริมฝีปาก หรือใช้แปรงสีฟันขนนุ่มๆ แปรงริมฝีปาก ก็จะช่วยให้ขุยต่างๆ หลุดลอกออกไปได้ แต่อย่าลืมว่า เมื่อสครับเสร็จแล้วควรทาด้วยลิปบาล์มเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่เรียวปากด้วยนะคะ

หมั่นทาลิปมันหรือลิปบาล์มเป็นประจำ

เมื่อเข้าสู่หน้าหนาว ควรเลือกลิปมันหรือลิปบาล์มที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์ เพื่อบำรุงริมฝีปากให้เนียนนุ่ม ชุ่มชื้น ยิ่งหากต้องออกแดด ควรเลือกใช้ลิปมันหรือลิปบาล์มที่มีส่วนผสมของ UV Protection เสริมด้วย เพราะแสงแดดจะยิ่งทำให้ริมฝีปากแห้ง และหมองคล้ำมากขึ้น