1.สครับผิวรุนแรงและบ่อยเกินไป

แม้ว่าการสครับผิวจะทำให้ผิวหน้าสะอาดกระจ่างใสยิ่งขึ้น เพราะได้กระตุ้นการขจัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพแล้วให้หลุดออกไปโดยเร็ว แต่ก็อย่าลืมว่าผิวหน้าของเราเป็นส่วนที่บอบบางอย่างมาก ดังนั้นสครับเพียงสัปดาห์ละครั้งก็เพียงพอแล้ว สครับบ่อยๆ หน้าถูกเสียดสีขูดขีดมากๆ แทนที่หน้าจะสวยก็กลับเสียเพราะริ้วรอยถามหา อยากผิวสวย หน้าใส ต้องมีความพอดี เคลียร์นะ :)

2.บีบหรือแกะสิว

ถ้าไม่อยากมีริ้วรอย หรือจุดด่างดำบนใบหน้า ก็รีบหยุดพฤติกรรมการบีบ แกะ กดสิวโดยด่วน เพราะยิ่งกดเท่าไร ผิวหน้าของเราก็ยิ่งบอบช้ำ และมีรอยแผลเป็นจากสิวที่จะอยู่กับเราอีกยาวนาน แทนที่จะมีใบหน้าที่สะอาดสดใส กลับเต็มไปด้วยรอยตำหนิ จุดด่างดำ รอยสิว ผิวจะสวยอยู่ที่เรา ท่องไว้ๆ

3.ล้างเครื่องสำอางไม่สะอาด

ก่จะงามก็เพราะขน คนจะงามก็ต้องแต่ง ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมผู้หญิงต้องแต่งหน้าตล๊อดตลอด ถามว่าแต่งแล้วสวยมั้ยตอบได้เลยว่าสวย สวยมากด้วยค่ะ มันสร้างความมั่นใจได้อย่างยอดเยี่ยม แต่สิ่งที่สาวๆ คาดไม่ถึง คือสารเคมีในเมคอัพที่อยู่บนหน้าเรามากกว่าวันละ 10 ชั่วโมง! ถ้าสาวๆ เคลียร์หน้ากันไม่สะอาด สารเคมีในเครื่องสำอางก็จะตกค้างอยู่ในผิววันแล้ววันเล่า ไม่อยากจะคิดภาพเลยค่ะว่าหน้าจะพังขนาดไหน ทางที่ดีเลือกคลีนซิ่งดีที่ไว้ใจได้ ที่เคลียร์เมคอัพได้หมดจดล้ำลึกถึงรูขุมขน และมอบความชุ่มชื้น เติมออกซิเจน และมอยส์เจอร์ไรเซอร์เข้าสู่ผิว คืนความสมดุลให้หน้าขาวกระจ่างใส ไร้กังวลเรื่องเมคอัพตกค้าง บอกลาริ้วรอย และความหมองคล้ำไปได้เลย

4.ละเลยการดื่มน้ำ

เพราะร่างกายที่ขาดน้ำ ทำให้ผิวพรรณของสาวๆ อย่างเราไม่สดใส และมีริ้วรอยลึกจากผิวขาดน้ำ ดังนั้นถ้าไม่อยากปรี๊ดแตกเพราะถูกเรียกป้า ก็หมั่นดื่มน้ำสะอาดอย่างเพียงพอวันละ 8-10 แก้ว เท่านี้ก็จะทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง หน้าใส ทำให้ริ้วรอยที่ลึกดูตื้นมากขึ้นแล้วล่ะ แค่เคลียร์ 4 พฤติกรรมง่ายๆ ก็หมดทุกปัญหากวนใจของผิวหน้าดูแก่ก่อนวัย ให้กลับมาสดใสลั้ลลาได้เหมือนเดิมแล้วล่ะ ใครมีพฤติกรรมเหล่านี้รีบเคลียร์เลยจ้า

สรุป Do and Don’t เพื่อหน้าไร้ริ้วรยยาวนาน

1. ต่อให้เหนื่อยแค่ไหน ง่วงแค่ไหน ห้ามลืมเช็ดทำความสะอาดหน้าก่อนนอนเด็ดขาด!! ไม่ว่าคุณจะแต่งหน้าแนว Makeup no Makeup หรือแต่งหน้าแน่น ก็ควรใช้ผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอาง เพื่อขจัดสิ่งสกปรกและเมคอัพตกค้างก่อนใช้โฟมล้างหน้าทุกครั้ง
2. เลือกใช้สำลีคุณภาพดีสำหรับเช็ดหน้าโดยเฉพาะ ผิวสัมผัสต้องนุ่ม แน่น ใช้แล้วไม่เป็นขุย มีสีขาวนวลไม่ขาวจัด และสามารถดูดซับและอุ้มน้ำได้ดี เพราะการใช้สำลีที่ทำจากใยสังเคราะห์ หยาบกระด้าง อาจจะทำให้ผิวระคายเคืองและเกิดอาการแพ้ได้
3. การเช็ดล้างเครื่องสำอางบนใบหน้าควรเริ่มเช็ดบริเวณที-โซนก่อน โดยเริ่มวนจากบริเวณหน้าผาก จมูกและคาง ย้ำว่าค่อย ๆ ลูบสำลีเบา ๆ ไปตามผิวให้ทั่วใบหน้านะคะ ถ้าคุณมีผลิตภัณฑ์คู่ใจอย่าง นีเวีย ไมเซล่า วอเตอร์ แนะนำว่าเทให้ชุ่มสำลีพอประมาณ แล้วางสำลีไว้บนผิวสักครู่เพื่อให้ไมเซล่าทำหน้าที่ดูดซับเมคอัพออกก่อน จากนั้นค่อยปาดออกอย่างเบามือ แค่นี้ก็สะอาดหมดจด และอ่อนโยนต่อผิวอีกด้วยค่ะ
4. สำหรับผิวบริเวณรอบดวงตาห้ามถูไปถูมาอย่างเด็ดขาด ค่อยๆ เช็ดจากบริเวณเปลือกตาลงมาจนถึงตรงขอบตา จากนั้นรูดมาสคาร่าให้ติดออกไปตามปลายขนตา สำหรับตรงขอบตาพับสำลีเป็นมุมสามเหลี่ยมเช็ดออกอย่าง เบาๆ
5. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอางที่เหมาะกับสภาพผิว หรือลองใช้ คลีนซิ่ง จัดการเมคอัพกันน้ำได้หมดจด เพิ่มพลังลบเมคอัพติดทนด้วยนวัตกรรมไมเซล่า ที่ทำหน้าที่ดักจับคราบสกปรกและเครื่องสำอาง ร่วมถึงสิ่งสกปรกและฝุ่นละอองต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 0% แอลกอฮอล์ พร้อมสูตรออกซิเจนบูทส์ช่วยเติมออกซิเจนให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น

รู้อย่างนี้แล้วทำความสะอาดผิวหน้าครั้งต่อไป สาว ๆ อย่าลืมปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเพื่อไม่ให้ผิวแลดูแก่ก่อนวัย และจะช่วยถนอมผิวให้เนียนนุ่ม กระจ่างใสอีกด้วยค่ะ