รังสี UV คืออะไร? และค่า UV Index คืออะไรกันแน่?

รังสี UV คืออะไร ?

แสงอาทิตย์ประกอบด้วยรังสี 3 ประเภทคือ รังสีอินฟราเรดหรือความร้อน, รังสีที่มองเห็นคือแสงสว่าง และรังสีที่มองไม่เห็นคือ UV

รังสี UV (รังสีเหนือม่วง) หรือ รังสี Ultraviolet เป็นช่วงหนึ่งของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความยาวคลื่นสั้นกว่าแสงที่มองเห็น เราจึงไม่สามารถมองเห็นรังสี UV ได้ด้วยตาเปล่า รังสี UV นี้ ถ้าแบ่งตามความยาวคลื่น (Wavelength) ที่ซึ่งรังสี UV ที่สามารถผ่านโอโซนลงมายังพื้นโลกและส่งผลกระทบต่อผู้คนทั่วไปจะสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้คือ

1. UVA  400 nm - 315 nm UVA

2. UVB  315 nm - 280 nm UVB UVBUVA Sunburn

3. UVC  280 nm - 100 nm UVA UVB

รังสี UV ทั้งสามมีพลังทะลุทะลวงที่ต่างกันและทำร้ายผิวในระดับที่ต่างกัน ไล่จากมากที่สุดคือ UVA1 , UVA2 ไปจนถึงน้อยที่สุดที่ UVB

สิ่งที่เราไม่เคยรู้คือ แดดอ่อนก่อน 9 โมงกับตอนเที่ยง แดดฤดูหนาวกับฤดูร้อน ปริมาณรังสี UVA1 แทบไม่ต่างกัน แสดงว่าผิวสวยๆ ของคุณพร้อมจะเสียได้ทุกเวลา จึงหมายความว่า สำหรับผู้หญิงแสงแดดน่าจะเป็นศัตรูมากกว่าเพื่อน จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่เราต้องทำความรู้จัก UVA1 อย่างจริงจัง ว่าทำไมถึงเป็นรังสีที่เป็นศัตรูกับผู้หญิงที่สุด และทำร้ายผิวได้มากและลึกขนาดไหน รวมถึงจะป้องกันได้อย่างไร?

เพราะอะไร UVA1 ถึงน่ากลัวที่สุด

รังสี UV ในแสงแดด มี UVA1 ถึง 75% , UVA2 มี 20% และ UVB เพียง 5% นอกจากปริมาณรังสีที่มีมากที่สุด UVA1 ยังมีคลื่นรังสียาวที่สุด ซึ่งถ้ายิ่งยาวมากหมายความว่าสามารถทะลุทำร้ายผิวได้ลึกมากกว่า ซึ่ง UVA1 นั้นทำลายได้ถึงโครงสร้าง DNA ของผิวเลยทีเดียว ความน่ากลัวของ UVA1 นอกจากปริมาณที่มากที่สุด ทำร้ายผิวได้ลึกที่สุด UVA1 ยังมีปริมาณแทบไม่แตกต่างกันไม่ว่าจะเช้ากลางวันเย็น แถมยังสามารถทะลุกระจก ผนัง เสื้อผ้า หมายความว่าแม้คุณจะสวมหมวกเสื้อแขนยาวปกปิด หรือนั่งอยู่ในอาคาร UVA1 ก็จะตามไปทำร้ายผิวคุณทุกที่! เรียกว่าอยู่ที่ไหนเวลาใด คุณจะหลบอย่างไรก็ไม่พ้น UVA1 ขณะกำลังนั่งอ่านอยู่นี้ ผิวคุณก็ค่อยๆ ถูก UVA1 ทำร้ายทีละนิด หากปล่อยทิ้งไว้จะเกิดอะไรขึ้นกับผิวคุณบ้าง? ถึงเวลาแล้วที่คุณต้องป้องกันรังสี UVA1 อย่างจริงจัง!

UV Index คืออะไร

UV Index ที่เราอาจเห็นได้ใน Application พยากรณ์อากาศ เรียกย่อๆ ว่า UVI (ยูวีไอ) คือ ดัชนีชี้วัดค่าความแรงของรังสี UV โดยค่าวัดนั้นจะเพิ่มขึ้นความความแรงของรังสี UV ซึ่งมีค่าวัดตั้งแต่ 1 ถึง 11+ จะแตกต่างกันไปตามภูมิประเทศ ฤดู พื้นที่ และเวลา โดยค่าเฉลี่ยนของประเทศไทยนั้นมี UV ค่อนข้างสูง ดังนั้นการใช้ชีวิตประจำวัน หรือ ออกทริปพักผ่อนก็ตาม ค่า UV ก็รุนแรงไม่ต่างกัน เราจึงจะมาบอกวิธีการป้องกันเมื่อต้องออกไปเจอกับแสงแดดกัน

จะรู้ได้ยังไงว่าช่วงไหน UVI สูง?

ให้สังเกตง่ายๆ โดยตอนที่เราออกแดดนั้นให้มองไปที่เงาของเราเองว่าเงามันสั้น หรือยาว กว่าตัวเรา ถ้าสั้นกว่าตัวเรานั้นแสดงว่าค่า UV ค่อนข้างสูงเนื่องจากเป็นช่วงเวลาสายๆ เที่ยง หรือบ่าย ซึ่งควรเข้าที่ร่มให้เร็ว แต่ถ้าเงายาวกว่าตัวเราแสดงว่าค่าUVค่อนข้างต่ำจากแสงแดดที่เป็นช่วงเวลายามเช้าหรือยามเย็น หรือเราสามารถหาข้อมูลได้จากมือถือของเราเอง

ช่วงเวลาที่ต้องระวังแดดเป็นพิเศษ

เพื่อเป็นการปกป้องผิวสาวๆให้สาวนั้น ควรหลีกเลี่ยงแดดในช่วง 10 โมงเช้าถึง 4 โมงเย็น เพราะเป็นช่วงที่มีค่า UV สูงถึง 8-14 เลยที่เดียว ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่สูง และอาจเป็นอันตรายต่อผิวได้หากไร้การปกป้องของผิว หากไม่มีธุระออกไปข้างนอก ช่วงเวลานี้ก็อยู่บ้านเปิดแอร์เย็นๆดูทีวี ดูซีรีย์ไปเพลินๆ หรือทำความสะอาดบ้านดูดฝุ่น ไปก่อน หากยังไม่มีแอร์หรือเครื่องดูดฝุ่นและกำลังมองหาแอร์และเครื่องดูดฝุ่นอยู่แต่ไม่รู้จะเลือกแบบไหนไปดูวีธีเลือกได้ที่ แอร์ยี่ห้อไหนดี วิธีเลือกเครื่องดูดฝุ่น

ถ้าต้องออกไปข้างนอกควรทำอย่างไร?

1.ใส่เสื้อผ้าที่ช่วยป้องกันแสงแดด ยิ่งเป็นเนื้อผ้าที่ทอแน่นก็ยิ่งช่วยป้องกันได้มากขึ้น
2.สวมหมวกปีกกว้าง หรือกางร่มที่ช่วยให้ร่มเงาได้ถึงผิวคอ
3.ใส่แว่นกันแดด ปกป้องดวงตาและผิวรอบดวงตาที่บอบบาง
4.ปกป้องผิวด้วยเซรั่มที่มีค่า SPF สูง เช่น SPF50 ก่อนออกข้างนอกทุกครั้ง ไม่ว่าจะระยะเวลาสั้นหรือนาน

แล้วหากต้องอยู่กลางแดดเป็นเวลานานควรทำอย่างไร

ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการออกไปทำงานข้างนอก ออกทริป หรือแม้แต่การใช้ชีวิตประจำวันก็ตาม หากต้องพบเจอกับแดดจัด แนะนำให้หาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงที่จะช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดให้เราในการใช้ชีวิตประจำวัน หรือกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ แนะนำถ้าต้องอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน ควรท่าครีมกันแดดทุก 2 ชม